เมื่อคืนนี้ฉันฝัน ฉันคิดว่า สิ่งที่เห็นในฝันคือนรก ในฝัน ฉันเจอเพื่อนหลายคน ทั้งที่มีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว เราต่างไปเจอกันที่นรกแห่งนั้น นรกไมได้มีสภาพน่ากลัวอย่างที่คิด เป็นเพียงอาคารและบริเวณที่กั้นไว้โดยเฉพาะ ฉันพลัดหลงเข้าไป เจอกับใครต่อใคร ทั้งหญิงและชาย ต่างใส่ชุดขาวกันทุกคน อยู่ด้วยกัน มีอาหารให้กิน แต่ไม่มีอะไรให้ทำ ได้แต่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้ว แต่ส่วนมากจะจับกลุ่มนินทากัน แล้วก็มีการเสียดสี อิจฉา ริษยากัน นรกแห่งนั้น ทำไว้ให้เห็นสิ่งทีอยู่ภายนอก แต่คนที่อยู่ในนรกจะหนีออกไม่ได้ ถ้าหนี จะมีสุนัขตัวใหญ่คอยจับกิน หรือบางคนที่แอบหนี ก็จะหายไปโดยไม่มีใครรู้
นรกที่ฉันเห็น คือการทำให้คนไร้อิสรภาพ ไม่มีอะไรทำ และให้คนอิจฉาริษยามาอยู่ด้วยกัน เท่านั้นเอง ก็ทำให้คนที่ไม่สามารถควบคุมใจตนเองเป็นบ้าไปได้
Monday, October 3, 2011
Sunday, August 28, 2011
บ่ายวันอาทิตย์ที่ชีวิตกำลังสับสน
บ่ายวันอาทิตย์ ไม่มีอะไรทำ ถึงมีก็ไม่ทำ นอนอืด เล่นเฟซบุ๊ค อ่านหนังสือ นอนกลางวัน แต่ไม่ค่อยหลับ อากาศก็ร้อนซะเหลือเกิน ต้องอุดอู้อยู่ในห้องนอน เปิดแอร์แบบพอหายร้อน ยี่สิบเก้าองศา พร้อมเปิดพัดลม ก็ค่อยยังชั่ว ผ้าไม่ซัก ไว้ซักกลางคืน ขี้เกียจ ชีวิตช่างไร้สาระได้ใจ งานมี แต่ไม่ทำ เบื่อแล้ว กำลังคิด ว่าจะไปไหนดี....
ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมไฟที่เคยลุกโชนอยากทำงานถึงหายไปซะเฉย ๆ เพราะแก่แล้ว เพราะมีเงินพอเลี้ยงตัวเองได้ เพราะขาดจุดมุ่งหมายในชีวิต เพราะงานไม่น่าสนใจ เพราะเพื่อนร่วมงานน่าเบื่อ เพราะ ฯลฯ ไม่รู้ หาสาเหตุไม่เจอ หรืออาจเพราะหลาย ๆ อย่างรวมกัน
มีเงิน แต่ไม่มีอะไรที่อยากกิน อยากซื้ออะไรก็ไม่มีให้ซื้อ อยากได้ของใช้อะไรก็ไม่มีขาย เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ชีวิตไม่มีอะไรเลย เช้ามาไปทำงาน กลางวันกินมาม่า เย็นกินสุกี้ อยากกินอาหารอร่อย ๆ ไปกินเมื่อไหร่ก็มีแต่ร้านฝีมือบ้าน ๆ รสชาติทำเองยังอร่อยกว่า แต่จะทำเองก็ขี้เกียจ เลยไม่ได้กินอะไรที่อยากกิน แถมส่วนประกอบบางอย่างก็ไม่มีขายอีก...
สมัยก่อน ทำงานที่อื่น เหมือนชีวิตจะมีความสุขกว่านี้ ทำงานได้เงิน ได้ใช้เงินบ้าง ได้กินอาหารอร่อย อยากได้อะไรก็ออกไปซื้อ เป็นการใช้ชีวิตจริง ๆ ส่วนที่นี่ เหมือนกับการทำงานเก็บเงินอย่างเดียว เหมือนเป็นเครื่องจักร พอถึงเวลาหนึ่งก็ออกไปซื้อ ออกไปกิน เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วก็กลับมากินมาม่าเหมือนเดิม เงินในบัญชีที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขเพิ่มขึ้นเลย
มาคิดถึงชีวิต ถ้าใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คงเหมือนชีวิตถูกแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือชีวิตที่ใช้ทำงาน ซึ่งมีเวลายาวนานกว่า และอีกส่วนหนึ่งคือชีวิตที่ได้ใช้ชีวิต ได้มีความรื่นรมย์ ซึ่งมีเวลาสั้นกว่า
ชีวิตกำลังสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือต้องออกไปใช้ชีวิตไกล ๆ ทุกเดือนถึงจะดี
ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมไฟที่เคยลุกโชนอยากทำงานถึงหายไปซะเฉย ๆ เพราะแก่แล้ว เพราะมีเงินพอเลี้ยงตัวเองได้ เพราะขาดจุดมุ่งหมายในชีวิต เพราะงานไม่น่าสนใจ เพราะเพื่อนร่วมงานน่าเบื่อ เพราะ ฯลฯ ไม่รู้ หาสาเหตุไม่เจอ หรืออาจเพราะหลาย ๆ อย่างรวมกัน
มีเงิน แต่ไม่มีอะไรที่อยากกิน อยากซื้ออะไรก็ไม่มีให้ซื้อ อยากได้ของใช้อะไรก็ไม่มีขาย เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ชีวิตไม่มีอะไรเลย เช้ามาไปทำงาน กลางวันกินมาม่า เย็นกินสุกี้ อยากกินอาหารอร่อย ๆ ไปกินเมื่อไหร่ก็มีแต่ร้านฝีมือบ้าน ๆ รสชาติทำเองยังอร่อยกว่า แต่จะทำเองก็ขี้เกียจ เลยไม่ได้กินอะไรที่อยากกิน แถมส่วนประกอบบางอย่างก็ไม่มีขายอีก...
สมัยก่อน ทำงานที่อื่น เหมือนชีวิตจะมีความสุขกว่านี้ ทำงานได้เงิน ได้ใช้เงินบ้าง ได้กินอาหารอร่อย อยากได้อะไรก็ออกไปซื้อ เป็นการใช้ชีวิตจริง ๆ ส่วนที่นี่ เหมือนกับการทำงานเก็บเงินอย่างเดียว เหมือนเป็นเครื่องจักร พอถึงเวลาหนึ่งก็ออกไปซื้อ ออกไปกิน เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วก็กลับมากินมาม่าเหมือนเดิม เงินในบัญชีที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขเพิ่มขึ้นเลย
มาคิดถึงชีวิต ถ้าใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คงเหมือนชีวิตถูกแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือชีวิตที่ใช้ทำงาน ซึ่งมีเวลายาวนานกว่า และอีกส่วนหนึ่งคือชีวิตที่ได้ใช้ชีวิต ได้มีความรื่นรมย์ ซึ่งมีเวลาสั้นกว่า
ชีวิตกำลังสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือต้องออกไปใช้ชีวิตไกล ๆ ทุกเดือนถึงจะดี
Subscribe to:
Posts (Atom)