กิจวัตรประจำวันของเรา หลังกินข้าวเช้าตอนเจ็ดโมงเช้าแล้ว ก็ไปทำกิจส่วนรวม เช่นกวาดถูกศาลาหอไตร ศาลาธรรม ลานหินโค้ง ซึ่งเป็นสถานที่เดินจงกรมและนั่งสร้างจังหวะ ทำกิจส่วนรวมเสร็จถึงแปดโมงกว่า ก็นั่งสร้างจังหวะ หรือไม่ก็เดินจงกรม เดิน ๆๆๆ นั่งๆๆๆ จนถึงสิบเอ็ดโมง ก็ไปกินข้าว แล้วก็กลับมา เดิน ๆๆๆ นั่ง ๆๆๆ จนสี่โมงเย็น
ส่วนมากพวกเราที่เข้าอบรมจะชอบไปเดินจงกรมหรือนั่งสร้างจังหวะที่ลานหินโค้ง ซึ่งเป็นลานกว้าง ๆ เอาหินแผ่นสี่เหลี่ยมใหญ่ ๆ หลายแผ่นมาวางเรียงกันเป็นล็อก ๆ ให้พอสำหรับหนึ่งคนเดินจงกรมในแต่ละล็อก และวางให้มีความสูงลดหลั่นกันไป อากาศที่นี่เย็นสบาย ต้นไม้เต็มให้ร่มเงา แดดส่องถึงแค่เล็กน้อย ลมโชยมาเบา ๆ บรรยากาศน่านอนมาก แต่ไม่มีใครกล้านอน เพราะพระอาจารย์จะเดินมาดูเป็นระยะ ลานหินโค้งสามารถรองรับคนเดินจงกรมได้เยอะพอสมควร คนเต็ม แต่ไม่ได้ยินเสียงพูดเลย ทุกคนมุ่งหน้าปฏิบัติเท่านั้น
การฝึกเจริญสตินั้น คือการฝึกให้กายกับใจอยู่ด้วยกัน ถ้าใจจะส่งออกนอก คือคิดเรื่องอื่น ก็ให้มีสติคอยระวังสังเกตใจ ทีนี้ พอใจกับกายอยู่ด้วยกันนานเข้า ไม่มีอะไรให้คิดก็เริ่มง่วง วันนั้น ขณะที่ฉันเดินจงกรมอยู่ เห็นกลุ่มสาว ๆ สี่คนแยกกันปฏิบัติ แล้วก็มีคนหนึ่ง เดินจงกรมอยู่ล็อกนี้ เสร็จแล้วเธอก็เปลี่ยนไปเดินอีกล็อกหนึ่งที่ว่างอยู่ และอีกล็อกหนื่ง ไปเรื่อย ๆ สงสัยเธอจะคิดว่าถ้าเปลี่ยนล็อกแล้วจะหายง่วง สักพักเธอก็กลับมา กระซิบกระซาบกับเพื่อนอีกสองคน ต่อจากนั้น พวกเธอก็พากันเดินตามกันเป็นเป็นวงกลมอยู่ที่ลานหินโค้งที่มีสามล็อกมาต่อกัน มอง ๆ ไปยังกะพวกเธอเดินสวนสนามกัน ฉันเลยพลอยตาลายไปด้วย ดีที่พระอาจารย์ไม่มาเห็น เพราะการเดินจงกรมไม่ให้เดินเป็นวงกลม แต่ให้เดินกลับไปกลับมา เพราะการกลับตัวจะช่วยหยุดความคิดฟุ้งซ่านได้ขณะที่บางคนเดินยาวจะปรุงแต่งความคิดยาวไปไม่สิ้นสุด การกลับตัวจะทำให้มีสติและหยุดความคิดได้ สาว ๆ ทั้งสามคนเดินสวนสนามกันสักพัก แล้วพากันเก็บของไปเดินที่อื่นต่อ สงสัยเดินสวนสนามก็คงไม่ทำให้หายง่วง
ขณะที่ฉันกำลังขำกับวิธีจัดการความง่วงของคนอื่น เหลียวไปอีกด้าน บนลานที่ทำไว้สำหรับเดินจงกรม เห็นสาวอีกคนหนึ่งกำลังวิ่งจงกรมอยู่ คนอื่นก็พากันมองอย่างงง ๆ การฝึกสติเวลาเดินคือ ให้ใจรู้เวลาเท้าสัมผัสพื้น แต่สาวคนนี้กำลังวิ่ง ไม่รู้ว่าใจเธอจะรู้ทันเวลาเท้าสัมผัสหรือเปล่า วิ่ง ๆ ไปคงไม่หายง่วง เพราะเป็นเวลาที่อาหารกลางวันกำลังย่อย คราวนี้ฉันเห็นเธอยกแขนสองข้างขึ้น ลง ขณะวิ่ง แล้วก็หยุด มาทำท่าบริหารร่างกายอยู่หลายท่า ฮ่าๆๆ ไม่รู้ว่าวันนั้นเธอจะหายง่วงหรือเปล่า
ป.ล. ฉันไม่ได้จ้องดูคนอื่นตลอดเวลานะ ฉันแค่มองเป็นพัก ๆ แต่ละทีที่มองก็ยังอดขำไม่ได้ ขำแบบมีสติ อิอิ
No comments:
Post a Comment